การออกแบบงานพิมพ์ถือเป็นศาสตร์และศิลป์แขนงหนึ่งที่ต้องอาศัยทักษะ ความรู้ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ เพราะการออกแบบคือการสร้างสรรค์ผลงานตามโจทย์ที่ได้รับ คือการถ่ายทอดจากความคิดให้ออกมาเป็นผลงานที่สามารถสัมผัสหรือรับรู้ได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีโปรแกรมสำหรับการออกแบบมากมายที่เป็นเหมือนเครื่องมือช่วยให้การออกแบบทำได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
สำหรับโปรแกรมที่นักออกแบบนิยมใช้ออกแบบงานพิมพ์จะมีอยู่สองโปรแกรมหลักๆ คือ Photoshop และ Illustrator มาทำความรู้จักกันว่าทั้งสองโปรแกรมนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง
โปรแกรมที่นิยมใช้ออกแบบงานพิมพ์
Photoshop
โปรแกรม Photoshop หรือ Adobe Photoshop เป็นโปรแกรมในตระกูล Adobe ที่ใช้สำหรับตกแต่งและแก้ไขรูปภาพทั้งภาพถ่ายและภาพกราฟิก สามารถใช้ตัดต่อ ปรับสีและแสง ใส่เอฟเฟกต์ ใส่ข้อความ และการปรับแต่งอื่นๆ เช่น การทำภาพขาวดำ หรือการทำภาพถ่ายเป็นภาพเขียน โดยในตัวโปรแกรมจะมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์มากมายพร้อมสำหรับการตกแต่งแก้ไขรูปภาพ หรือการทำงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์และงานด้านมัลติมีเดีย
Illustrator
โปรแกรม Illustrator หรือ Adobe Illustrator อีกหนึ่งโปรแกรมในตระกูล Adobe ที่ใช้สร้างภาพกราฟิกในลักษณะของลายเส้นที่มีความคมชัดหรือความละเอียดสูง (Vector Graphic) สามารถใช้สร้างภาพประกอบหรือภาพกราฟิก 2 มิติ เช่น สร้างโลโก้ จัดเลย์เอาท์งานพิมพ์ และยังใช้ทำงานออกแบบได้หลากหลาย ทั้งบรรจุภัณฑ์ สิ่งพิมพ์ ภาพเคลื่อนไหว หรือเว็บไซต์ เป็นต้น
พอจะรู้จักกันไปคร่าวๆ แล้วว่า ทั้ง Photoshop และ Illustrator คือโปรแกรมที่ใช้สร้างหรือตกแต่งแก้ไขรูปภาพที่จัดเป็นโปรแกรมมาตรฐานสากล และเป็นโปรแกรมที่นักออกแบบภาพหรือสื่อสิ่งพิมพ์นิยมใช้ คราวนี้มาดูกันว่า ทั้งสองโปรแกรมนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง
ข้อดีและข้อเสียของ Photoshop
ข้อดี
– มีเครื่องมือและฟิลเตอร์ให้เลือกใช้มากมาย สามารถทำงานออกแบบ ตกแต่งหรือแก้ไขรูปภาพได้หลากหลาย
– มีเครื่องมือสำหรับเปิดไฟล์ RAW พร้อมรายละเอียด
– สามารถปรับ Profile สีให้เข้ากันได้
– สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ จากค่าย Adobe ได้ เช่น Premiere หรือ Illustrator และยังมี Adobe RGB ที่นิยมใช้กันทั่วโลก
– สามารถเปิดภาพและบันทึกไฟล์ได้หลายนามสกุล อีกทั้งยังสามารถ Slice ภาพเป็นย่อยๆ แล้วบันทึกเป็นเว็บได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้โปรแกรมอื่นช่วย
– สามารถใช้งานแบบ Layer และใช้ Plug-in เสริมร่วมกับโปรแกรมอื่นได้
– รองรับ WIA จากสแกนเนอร์ สามารถสั่งสแกนและ Import ภายในโปรแกรมได้เลย
ข้อเสีย
– มีค่าใช้จ่ายสูง
– มีเครื่องมือเยอะ หากไม่ใช่นักออกแบบหรือไม่มีความรู้เรื่องการใช้โปรแกรมอาจสับสนได้
– กินทรัพยากรเครื่องสูง
– มีปัญหาสระลอย
– มีปัญหาเรื่องความละเอียดของภาพ เมื่อขยายภาพแล้วจะไม่คมชัด
– Photoshop จะบังคับให้ลง Adobe Bridge ซึ่งอาจไม่จำเป็นสำหรับคนที่ไม่ใช่มืออาชีพ
ข้อดีและข้อเสียของ Illustrator
ข้อดี
– โดดเด่นในเรื่องของการสร้างภาพแบบ Vector หรือการสร้างภาพกราฟิก 2 มิติได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถวาดและแก้ไขเส้นโครงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
– สามารถใช้สร้างหรือออกแบบภาพได้หลากหลาย ตั้งแต่ภาพง่ายๆ ไปจนถึงภาพที่มีความซับซ้อน
– เนื่องจากเป็นภาพแบบ Vector จึงสามารถปรับขนาด ย่อหรือขยายรูปภาพให้ใหญ่ขึ้นได้โดยที่ภาพจะยังคงคมชัดและมีความละเอียดสูง ภาพไม่แตก
– โปรแกรม Illustrator จะสร้างไฟล์ที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่น จึงทำให้ประหยัดเวลาในการโอนถ่ายข้อมูล
– สามารถใช้งานหลายบอร์ดพร้อมกันได้ ทำให้ประหยัดเวลาในการแก้ไข
– สามารถใช้งานกับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นระบบ พีซี Windows หรือ Apple
-สามารถปรับปรุง Wmf หรือ Clipart ของ Windows ได้
– หมดปัญหาเรื่องการส่งไฟล์งานให้โรงพิมพ์ เพราะทุกโรงพิมพ์ยินดีรับไฟล์งานที่สร้างจากโปรแกรม Illustrator
ข้อเสีย
– ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์
– สามารถออกแบบได้เพียงภาพ 2 มิติ
– ภาพที่ได้จะไม่เหมือนภาพจริง แต่จะเป็นภาพวาดหรือใกล้เคียงภาพถ่ายเท่านั้น
ควรเลือกใช้โปรแกรมไหนตัดต่อหรือออกแบบดี?
จากที่ได้ทำความรู้จักและได้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของทั้งสองโปรแกรมไปแล้ว จะเห็นว่าทั้ง Photoshop และ Illustrator เป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับนำมาใช้กับงานประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ ตัดต่อ และออกแบบ
โดยโปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับการตัดต่อภาพคือ Photoshop เพราะมีเครื่องมือสำหรับปรับแต่งภาพให้เลือกใช้มากมาย สามารถแก้ไขหรือแต่งเติมรูปภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนโปรแกรมที่นักออกแบบหลายๆ คนยกให้เป็นอันดับหนึ่งในเรื่องงานออกแบบก็คือ Illustrator เพราะเป็นโปรแกรมสร้างภาพแบบ Vector หรือภาพกราฟิกที่มีลายเส้นสวยงาม คมชัด และมีความละเอียดสูง