DPI (Dots Per Inch) เป็นหน่วยวัดความละเอียดของรูปภาพที่ใช้ในงานพิมพ์ ยิ่งค่ามาก ความละเอียดและความคมชัดของภาพก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย แต่ก็แลกมาด้วยขนาดของไฟล์ที่ใหญ่ขึ้นไปด้วยเช่นกัน สำหรับค่า DPI ที่นิยมใช้กันสำหรับงานพิมพ์จะอยู่ที่ 300 DPI
ทำไมต้อง 300 DPI ?
เวลาที่เราออกแบบบนจอคอมพิวเตอร์ การแสดงผลของภาพจะเป็นแบบ PPI หรือ Pixels Per Inch เป็นหน่วยที่บอกความละเอียดของหน้าจอแสดงผลต่างๆ เช่นจอคอมพิวเตอร์ จอทีวี หรือจอสมาร์ทโฟน ยิ่งค่ามาก ก็หมายถึงหน้าจอนั้นจะมีความละเอียดมากขึ้น
ซึ่งปกติเราจะใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์ดูภาพที่เราออกแบบ ซึ่งความละเอียดของภาพจะเป็น Pixel แต่ไฟล์ที่เราออกแบบสำหรับนำไปใช้ในงานพิมพ์ เช่น หนังสือ แคตตาล็อก คูปอง หรืองานพิมพ์อื่นๆ จะใช้หน่วยความละเอียดที่แตกต่างจากจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งในงานพิมพ์จะใช้หน่วยเป็น DPI ซึ่งมีความละเอียดมากกว่า PPI เช่น ในพื้นที่ 1 ตารางนิ้ว จะมีจำนวน Pixel เรียงกันอยู่ 300 x 300 เม็ด
โดยค่า DPI ยิ่งมีมาก ก็จะยิ่งทำให้ภาพที่ได้มีความละเอียดและคมชัดยิ่งขึ้น หากค่า DPI ที่ต่ำกว่า 300 ก็จะทำให้คุณภาพงานพิมพ์ที่ได้มีความละเอียดน้อยลงไปด้วย แม้ลูกค้าจะออกแบบไฟล์มาสวยมากแค่ไหน หากตั้งค่า DPI ผิด คุณภาพเมื่อพิมพ์ออกมาก็จะไม่สวยเหมือนที่เราดูในจอคอมพิวเตอร์
สำหรับวิธีเช็คว่าภาพเป็น DPI มีค่าเท่าไหร่ สามารถดูได้จากการคลิกขวา Properties>Details
วิธีตั้งค่าไฟล์ให้เป็น 300 DPI
1. เปิดโปรแกรม Photoshop
2. เลือก Image จากนั้นคลิกเลือก Image Size
3. ในหน้า Image Size ตั้งค่า Resolution ให้อยู่ที่ 300
4. เมื่อตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยให้คลิกเลือก OK
การตั้งค่าหรือการเตรียมไฟล์อาร์ตเวิร์ค เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะต้องตรวจสอบให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนส่งไฟล์ให้กับโรงพิมพ์ เพื่อที่ทางโรงพิมพ์จะสามารถทำการพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไขหรือตีกลับไฟล์หลายครั้ง
และสำหรับท่านที่สนใจพิมพ์หนังสือ แคตตาล็อก เมนูอาหาร หรืองานพิมพ์อื่นๆ บริษัท พลัส พริ้นท์ติ้ง จำกัด ยินดีให้บริการงานพิมพ์ทุกชนิดโดยไม่มีขั้นต่ำ เราพร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับงานพิมพ์ โดยเรามีทีมออกแบบและทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านงานพิมพ์ พร้อมด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัยที่จะทำให้งานพิมพ์ของคุณโดดเด่น สวยงาม และมีคุณภาพ