การตั้งค่าระยะตัดตก (Bleed) และระยะตัดขอบ (Margin) คือการตั้งค่าไฟล์อาร์ตเวิร์ค (Canvas) ก่อนการสั่งพิมพ์ ซึ่งการตั้งค่านี้จะช่วยป้องกันความผิดพลาดหลังการพิมพ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งในระหว่างการตั้งค่าระยะตัดตกและระยะตัดขอบก็จะต้องตั้งค่าให้พอดีเพื่อกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดจากการตั้งค่า เช่น หากตั้งค่าระยะตัดตกไม่พอดี งานที่ได้อาจมีขอบสีขาวออกมาด้วย หรือหากวางข้อความสำคัญไว้บริเวณนอกพื้นที่ปลอดภัย (Safe zone) อาจทำให้ข้อความนั้นเสี่ยงต่อการถูกตัดออกระหว่างการพิมพ์ได้
สำหรับโปรแกรม Photoshop จะไม่มีการสนับสนุนการตั้งค่าระยะตัดตกและระยะตัดขอบในงานอาร์ตเวิร์คที่สะดวกกว่าเดิม จึงจำเป็นต้องตั้งค่าเอง
โดยเราจะยกตัวอย่างอาร์ตเวิร์คที่มีขนาด 9 x 5 ซม. เช่น การพิมพ์นามบัตรขนาด 9 x 5 ซม. หากพิมพ์ด้วยโปรแกรม Photoshop อาร์ตเวิร์คจะต้องมีขนาด 9.6 x 5.6 ซม. ซึ่งเป็นขนาดระยะตัดตก 0.3 ซม. ของอาร์ตเวิร์คทุกด้าน โดยสามารถตรวจสอบขนาดของอาร์ตเวิร์คได้โดยการเลือก Image > Canvas Size
เมื่อตั้งค่าระยะตัดตกเรียบร้อยแล้ว ถัดมาคือการสร้างเครื่องหมายสำหรับพื้นที่ระยะตัดตกและพื้นที่ปลอดภัย วิธีการคือใช้เครื่องมือ Rectangle สร้างกรอบสี่เหลี่ยมตามขนาดของสินค้าที่ต้องการขึ้นมาไว้ตรงส่วนไหนก็ได้ จากนั้นตั้งค่าความกว้างและความสูง เช่น ความกว้าง 9 ซม. และความสูง 5 ซม. ตามที่ได้ยกตัวอย่าง แล้วย้ายตำแหน่งกรอบสี่เหลี่ยมไว้ที่จุดกึ่งกลางโดยเลือก Align บนตำแหน่ง Canvas ใน Dropdown เลือก Horizontal Centers จากนั้นจึงเลือก Vertical Centers และตั้งค่ากรอบสี่เหลี่ยมแบบไม่มีสี
เมื่อย้ายกรอบสี่เหลี่ยมมาอยู่ที่จุดกึ่งกลางเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นการตั้งค่า Guideline สำหรับสิ่งที่ต้องการจะพิมพ์ โดยคลิกขวาที่รูปแล้วเลือก New Guides from Shape ข้อสำคัญอีกอย่างคือ หากมีการเพิ่มองค์ประกอบพื้นหลัง เช่น รูปภาพ รูปร่างและรูปทรงเรขาคณิต หรือเพิ่มสีพื้นธรรมดา จะต้องขยายองค์ประกอบที่เพิ่มเข้ามาให้เต็มในพื้นที่ระยะตัดตก หรือขยายให้เต็มพื้นที่อาร์ตเวิร์คนั่นเอง