ปัจจุบันการซื้อขายสินค้าออนไลน์ เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น เพราะสะดวก รวดเร็ว และมีสินค้าให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ของใช้ในครัวเรือน ฯลฯ ก็สามารถสั่งซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งก็ทำให้เกิดงานด้านบริการขนส่งสินค้าและพัสดุให้เลือกใช้หลากหลายบริษัท โดยแต่ละบริษัทก็จะมีจุดแข็งที่แตกต่างกันไป ดังนั้นวันนี้เราจึงนำข้อมูลของแต่ละแบรนด์ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกส่งสินค้า ให้แม่ค้าออนไลน์ทุกคนได้เปรียบเทียบกันครับ

แม่ค้าออนไลน์ต้องรู้! แต่ละเจ้าค่าส่งเริ่มเท่าไหร่

ไปรษณีย์ไทย

จุดแข็ง

  • มีประสบการณ์ให้บริการรับ-ส่งของมายาวนาน
  • จุดบริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ เข้าถึงพื้นที่ห่างไกลในต่างจังหวัดที่เอกชนไปไม่ถึง
  • แม้จ่าหน้าซองผิด ก็สามารถส่งของถึงที่ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญและคุ้นชินเส้นทาง
  • มีบริการส่งพัสดุให้เลือกทั้งแบบธรรมดา ลงทะเบียน และ EMS
  • สามารถส่งของชิ้นใหญ่ได้ เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น หรือมอเตอร์ไซค์
  • บริการเก็บเงินปลายทาง

ค่าบริการ

  • ส่งแบบลงทะเบียน เริ่มต้นที่ 18 บาท
  • ส่งแบบ EMS เริ่มต้นที่ 32 บาท

เวลาทำการ

  • วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00น. – 20.00 น.
  • วันเสาร์ เวลา 08.00น. – 17.00 น.
  • วันอาทิตย์ เวลา 08.00น. – 12.00 น.

Kerry Express

จุดแข็ง

  • เข้าถึงง่ายสะดวกสบาย เพราะมีทั้งสาขาของ Kerry Express และร่วมกับพาร์ตเนอร์ เช่น Family Mart (เปิด 24 ชั่วโมง) Tops, B2S, Officemate และตามสถานีรถไฟฟ้า
  • มีบริการตู้ล็อคเกอร์รับ-ส่งพัสดุ 24 ชั่วโมง กว่า 70 แห่งในกรุงเทพฯ
  • จัดส่งถึงปลายทางภายในวันเดียว สำหรับในกรุงเทพฯ
  • บริการเก็บเงินปลายทาง

ค่าบริการ

  • เริ่มต้นที่ 30 บาท

เวลาทำการ

  • วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 08.30 – 18.00 น. หยุดวันอาทิตย์

Flash Express

จุดแข็ง

  • บริการ Door to Door เข้ารับพัสดุถึงบ้าน
  • รับพัสดุขนาด Over sizeได้
  • สร้างบิลสินค้าล่วงหน้า และสามารถคำนวณ / รู้ราคาค่าส่งล่วงหน้า
  • บริการรับชำระเงินปลายทาง cod.

ค่าบริการ

  • เริ่มต้นที่ 25 บาท

เวลาทำการ

  • วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 19.00 น.

SCG Express

จุดแข็ง

  • Pick up Service เข้ารับพัสดุถึงที่
  • บริการส่งพัสดุแบบเร่งด่วนถึงหน้าบ้าน
  • บริการส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ
  • บริการส่งพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะ
  • ส่งเอกสารด่วนระหว่างบริษัทถึงบริษัทในกรุงเทพฯ
  • บริการเก็บเงินปลายทาง

ค่าบริการ

  • เริ่มต้นที่ 40 บาท

เวลาทำการ

  • วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 19.00 น.

DHL

จุดแข็ง

  • DHL เป็น Global Company ที่ให้บริการขนส่งระหว่างประเทศมานานกว่า 40 ปี
  • จัดส่งพัสดุภายในวันเดียว ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
  • ลูกค้าสามารถเปลี่ยนเวลาและสถานที่จัดส่งได้ แม้ของจะอยู่กลางทาง
  • สามารถส่งสินค้าเพื่อปลอดภาษีขาเข้าได้สูงสุดถึง AUD 1,000 / Shipment
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง

ค่าบริการ

  • เริ่มต้นที่ 45 บาท

เวลาทำการ

  • วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น. หยุดวันเสาร์ วันอาทิตย์

แต่ละแบรนด์ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป ดังนั้นอยู่ที่ว่าบริการแบบไหนจะถูกใจและตอบโจทย์แม่ค้าออนไลน์มากกว่ากัน ทั้งนี้ก็สามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวกกันได้เลย