เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนแห่งการแสดงความรัก เพราะในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันแห่งความรัก หรือ Valentine’s Day ซึ่งผู้คนจะมอบดอกกุหลาบ ช็อกโกแลต และของขวัญต่าง ๆ ให้กัน เพื่อเป็นการแสดงความรักต่อกัน แต่คุณรู้เหรือไม่ว่าวันวาเลนไทน์ยังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่รู้ ดังนั้น ในวันนี้เราจะพาคุณไปดู 10 เรื่องน่ารู้ของวันวาเลนไทน์ ที่คุณไม่ควรพลาด มาฝากกันค่ะ ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

10 เรื่องน่ารู้ของวันวาเลนไทน์

1. วันวาเลนไทน์เกิดขึ้นเพื่อระลึกถึงนักบุญเซนต์วาเลนไทน์ (Saint Valentine)
นักบุญเซนต์วาเลนไทน์ ผู้รับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 เพราะในยุคนั้นมีกฎหมายห้ามไม่ให้มีการแต่งงานของพวกคริสเตียน แต่เซนต์วาเลนไทน์ยังแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนจนถูกจับขัง และรับโทษ โดยในขณะที่ถูกคุมขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอด ด้วยความรัก และคำอธิษฐาน พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของสาวคนรักหายเป็นปกติ แต่เมื่อความนี้ล่วงรู้ถึงหูกษัตริย์ เซนต์วาเลนไทน์จึงถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ ต่อมาเมื่อคนทั่วไปทราบเรื่องราวจึงเกิดความประทับใจ และยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันแห่งความรัก

2. ความเชื่อวันวาเลนไทน์
ตามความเชื่อในวันวาเลนไทน์ที่มีมาตั้งแต่โบราณ เชื่อว่าถ้าสาวรายใดเห็นนกโรบิน บินผ่านศีรษะตัวเองในวันวาเลนไทน์ สาวรายนั้นจะได้แต่งงานกับทหารเรือ และถ้าสาวรายใดเห็นนกกระจอก สาวรายนั้นจะได้แต่งงานกับคนจนแต่มีความสุขในการใช้ชีวิตคู่ตลอดชีวิต และถ้าได้เห็นนกโกลฟินซ์ สาวรายนั้นจะได้แต่งงานกับเศรษฐี

3. การมอบดอกกุหลาบให้กัน
ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงาม และความรัก โดยตำนานกรีกได้กล่าวว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อโดนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือด และน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้ม หรือ ดอกกุหลาบ ที่สื่อความหมายแทนข้อความ และดอกกุหลาบสีแดง หมายถึง ความโรแมนติก อีกด้วย

4. การมอบช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตสมัยก่อนเป็นสินค้าหายาก และมีราคาแพง คนรักจึงมักใช้เป็นของขวัญให้กัน และช็อคโกแลตยังสามารถกระตุ้นให้สมองหลั่งสารแห่งความสุข (Endorphin) ออกมา ช่วยคลายเครียด และทำให้เกิดความรู้สึกดี ๆ ได้

5. ส่งการ์ดให้กัน
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 การส่งการ์ดที่เขียนด้วยลายมือ และสัญลักษณ์อื่น ๆ ของความเสน่หา คือ ประเพณีที่นิยมทำกันในวันวาเลนไทน์ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งการส่งการ์ดให้กัน นอกจากจะได้บอกความในใจแล้วยังคลาสสิคสุด ๆ อีกด้วย

6. ทำไมกามเทพถึงเป็นสัญลักษณ์ของความรัก
ก่อนที่เขาจะถูกเรียกว่า กามเทพ ชาวกรีกเรียกชื่อเทพสวรรค์นี้ว่า Eros ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก ตามตำนานเทพเจ้ากรีกกามเทพมีลูกศรอยู่ 2 แบบที่ทำให้มนุษย์ตกหลุมรัก และเกลียดกัน ส่วนในตำนานของโรมันกามเทพเป็นบุตรชายของเทพวีนัส ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความรัก ทั้งนี้ในช่วงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาศิลปินวาดกามเทพเป็นพุตโต เทวดาเด็กกึ่งเปลือยกาย จากนั้นมาก็กลายเป็นสัญลักษณ์ยอดนิยมในวาเลนไทน์นั่นเอง

7. วาเลนไทน์ไม่ได้หมายถึงคู่รักเท่านั้น
วันวาเลนไทน์สามารถแสดงความรักได้กับทุกคน และข้อมูลยังเปิดเผยอีกว่า ครูเป็นคนที่ได้รับของขวัญวาเลนไทน์มากที่สุด รองลงมาคือลูกที่ได้รับของขวัญจากพ่อ แม่ รวมถึงวันนี้ยังเปิดโอกาสให้เราแสดงความรักกับเพื่อนร่วมโลกทั้งคนที่ด้อยโอกาส สัตว์เลี้ยงต่าง ๆ ซึ่งพลังของความรักไม่ได้จำเพาะอยู่แค่คู่รักของเราเท่านั้น

8. ความแตกต่างของวันวาเลนไทน์ในประเทศญี่ปุ่น
ในวันวาเลนไทน์สำหรับญี่ปุ่น ภรรยาจะเป็นผู้ให้ และสามีเป็นผู้รับ จุดเริ่มต้นนี้มาจากบริษัทช็อกโกแลตชื่อดัง Morozoff ที่สื่อสารเรื่องเทศกาลของชาวตะวันตกผิดพลาด แต่อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 มีนาคม ชาวญี่ปุ่นก็จะเฉลิมฉลองในวัน ‘White Day’ คือเป็นการตอบรับของฝ่ายชายที่ได้รับจากฝ่ายหญิงเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์

9. เกาหลีใต้มีวันแห่งความรักมากที่สุดในโลก
ประเทศเกาหลีใต้มีวันแห่งความรักทุกเดือน โดยเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน จะเป็นช่วงวันแห่งความรักที่สำคัญที่สุด ในเดือนกุมภาพันธ์ หญิงสาวจะมอบขนมหวานให้กับผู้ชาย พอถึงเดือนมีนาคม ผู้ชายต้องมอบของขวัญให้กับผู้หญิงตอบแทน ส่วนเดือนเมษายน เหล่าคนโสดที่ไม่ได้รับของขวัญวันวาเลนไทน์จะมารวมตัวกันกินจาจังมยอน หรือบะหมี่ราดซอสดำเพื่อปลอบใจตัวเอง

10. ความรักแบบเดนมาร์ก
สำหรับหนุ่มแดนโคนมเดนมาร์ก มักจะส่งการ์ดที่มีคำกลอนไปหาคนที่เขารักในวันนี้ แต่ไม่มีการลงชื่อท้ายการ์ด แต่ใช้จุดแทนการลงชื่อ ซึ่งหนึ่งจุด จะแทนตัวอักษรชื่อของเขา หนึ่งตัวอักษร หากสาวคนนั้นทายชื่อถูก เขาก็จะได้รับไข่อีสเตอร์ เป็นรางวัล ที่ทำให้น่ารักแบบเบา ๆ และอบอุ่นหัวใจ

สรุป

ทั้งหมดเป็น 10 เรื่องน่ารู้ของวันวาเลนไทน์ ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คน อาจจะไม่เคยรู้ ซึ่งแต่ละเรื่องก็ทำให้เราเข้าใจวันวาเลนไทน์มากขึ้น และทำให้รู้ว่าแต่ละประเทศก็มีกิจกรรมที่ทำในวันวาเลนไทน์ที่แตกต่างกันอีกด้วย ทั้งนี้ใกล้ถึงวันวาเลนไทน์แล้ว ก็อย่าลืมแสดงความรักต่อกัน หรือมอบของขวัญให้กับคนพิเศษของคุณด้วยนะคะ เพื่อเพิ่มพลังของความสุขให้กัน และกันค่ะ

เกี่ยวกับ Plusprinting

Plusprinting เป็นโรงพิมพ์ออนไลน์ ดำเนินธุรกิจโดย บริษัท บุ๊คพลัส พับลิชชิ่ง จำกัด (BookPlus Publishing Co, Ltd.) ซึ่งทางเรามีบริการด้านการพิมพ์แบบครบวงจร พร้อมดีไซน์ให้ได้ตรงกับความต้องการ ด้วยประสบการณ์อันยาวนาน และทีมงานมืออาชีพที่พร้อมจะทำให้งานพิมพ์ออกมาตรงตามความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทุกท่าน

รูปภาพ: www.mashed.com , www.thesprucecrafts.com และ www.freepik.com