“22 มีนาคม วันอนุรักษ์น้ำโลก” ถึงเวลาที่ต้องหันมาสนใจความสำคัญของน้ำกันแล้ว หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า น้ำ คือสิ่งสำคัญที่ร่างกายขาดไม่ได้ เพราะน้ำมีส่วนสำคัญมากถึงมากที่สุดในการช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ หากร่างกายขาดน้ำแล้ว จะส่งผลเสียต่อการทำงานในส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นอย่างมาก
การขาดน้ำนอกจากจะส่งผลเสียกับการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายแล้ว ยังส่งผลเสียถึงสภาพร่างกายภายนอกที่สามารถมองเห็นได้ เช่น อาการแห้งของผิวหนัง หรือความอ่อนเพลียที่ร่างกายแสดงออกมาอย่างชัดเจน
ปกติแล้วร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 75% ของน้ำหนักตัว และร่างกายของเราจะสูญเสียน้ำไปตามกลไกธรรมชาติจากการเสียเหงื่อ การขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ การระเหยผ่านผิวหนัง และการหายใจอยู่แล้ว แต่หากร่างกายขาดน้ำมากกว่าที่ควรจะเป็น โดยอาจมีสาเหตุจากการออกกำลังกายที่ทำให้สูญเสียเหงื่อมากกว่าปกติ หรือเกิดจากการดื่มน้ำน้อย ก็จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำและตามมาด้วยผลเสียดังต่อไปนี้
1. ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองลดลง
อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าน้ำเป็นส่วนสำคัญที่ร่างกายจะขาดไม่ได้ หากร่างกายคนเราขาดน้ำเพียงแค่ 2% ของมวลกาย ก็สามารถส่งผลถึงระบบการทำงานของสมอง แม้ว่าการขาดน้ำเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์นี้จะไม่ได้ทำให้เรารู้สึกกระหายน้ำมากไปกว่าปกติเลย แต่ด้วยความสำคัญของน้ำต่อร่างกาย การขาดน้ำเพียง 2% ก็สามารถทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงได้ จะสังเกตได้ว่าเวลาที่ร่างกายคนเราขาดน้ำ สมาธิในการทำสิ่งต่างๆ ก็จะลดน้อยลง เพราะเมื่อร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่น้อยกว่าปกติ สมาธิและการประสานงานของระบบต่างๆ จะทำงานได้แย่ลงไปด้วย
2. ระบบไหลเวียนและอวัยวะต่างๆ ทำงานผิดปกติ
นอกจากการขาดน้ำจะส่งผลถึงประสิทธิภาพการทำงานของสมองแล้ว ยังส่งผลเสียไปถึงระบบไหลเวียนและอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อ หัวใจ ทางเดินอาหาร ไต โดยการขาดน้ำจะเสี่ยงต่อการทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน หรืออาจถึงแก่ชีวิต และหากขาดน้ำในปริมาณมากจะมีผลร้ายต่อระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้มีภาวะความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเต้นเบาลง
3. ริมฝีปาก ผิวหนัง และเส้นผมแห้ง
นอกจากน้ำจะเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของระบบและอวัยวะต่างๆ ในร่างกายแล้ว น้ำยังเป็นสิ่งที่ให้ความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี หากร่างกายขาดน้ำแม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้อวัยวะบางส่วนขาดความชุ่มชื้นและเกิดการแห้งแตก เช่น ริมฝีปากแห้ง คอแห้ง เส้นผมแห้ง หรือผิวหนังแห้ง ทำให้มีอาการคันและแสบ เนื่องจากการแห้งแตกเพราะขาดความชุ่มชื้นนั่นเอง
4. อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น
โดยปกติร่างกายของคนเราจะมีการสูญเสียน้ำเป็นบางส่วนตามกลไกของธรรมชาติอยู่แล้ว การสูญเสียน้ำในลักษณะนี้จะเป็นการที่ร่างกายขับน้ำออกไปในรูปแบบต่างๆ เช่น การขับถ่ายหรือเหงื่อ แต่หากขาดน้ำ ร่างกายจะไม่มีน้ำเพียงพอที่จะขับออกมาในรูปของเหงื่อ ทำให้ร่างกายไม่สามารถขับความร้อนออกมาได้ เป็นผลให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น อาจทำให้เป็นลมแดดหรือหมดสติ
5. เกิดอาการชัก เกร็ง กระตุก
เมื่อใดที่ร่างกายขาดน้ำ จะทำให้มีอาการชัก เกร็ง กระตุก จากภาวะเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งโพแทสเซียมและโซเดียม ที่เป็นส่วนสำคัญในการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลกระทบถึงการเต้นของหัวใจ ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
6. เกิดอาการช็อกและหมดสติ
หากร่างกายขาดน้ำจนถึงขั้นรุนแรง หรือมากกว่า 5% ของมวลกาย จะมีผลไปถึงการหายใจที่จะเร็วและตื้นขึ้น ชีพจรเต้นอ่อนลงและไม่เป็นจังหวะ มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดอาการช็อกและหมดสติ ในบางรายอาจทำให้เป็นตะคริวหรืออ่อนเพลีย ไม่มีแรง และที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือ หากขาดน้ำมากกว่า 7 – 10% ของมวลกาย อาจเกิดอาการประสาทหลอน และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว