เมื่อพูดถึงความเท่าเทียมของผู้หญิง เรามักจะนึกไปถึงภาพของการที่ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ชายที่ยึดถือกันมาว่าเป็นเพศที่มีอำนาจเหนือกว่า โดยในสมัยก่อนเพศหญิงเป็นเพศที่ไม่เคยได้รับความเท่าเทียมในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพที่จะคิดหรือทำสิ่งต่างๆ เหมือนกับผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่มีแค่ผู้ชายเท่านั้นที่เป็นฝ่ายออกไปทำงานนอกบ้าน เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ ไม่สามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้ สิ่งเดียวที่ผู้หญิงสามารถทำได้คืองานในบ้าน หรือแม้กระทั่งการมีสิทธิ์มีเสียงในเรื่องการเมือง รวมไปถึงโอกาสทางการศึกษาที่ผู้หญิงไม่เคยได้รับอย่างเท่าเทียม

แต่ในปัจจุบัน สังคมได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพศหญิงไม่ใช่เพศที่อ่อนแออีกต่อไป ผู้หญิงสามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้ สามารถมีสิทธิ์มีเสียงหรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องการเมืองได้ อีกทั้งผู้หญิงยังมีเสรีภาพในการได้รับการศึกษาเช่นเดียวกันกับผู้ชาย เนื่องจากสังคมในปัจจุบันยึดหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย คือการให้ความเสมอภาคเท่าเทียมกันกับทุกคน รวมทั้งคนในสังคมที่มีทัศนคติที่ดีขึ้น ทำให้ผู้หญิงได้รับความเสมอภาค มีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกับผู้ชาย

เรามักจะได้เห็นความเท่าเทียมของผู้หญิงเกิดขึ้นมากมายในสังคมปัจจุบัน เช่น ผู้หญิงได้มีการศึกษาสูงๆ หรือบางทีก็สูงกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ หรือจะเป็นในเรื่องของการเมือง เราก็มักจะได้เห็นผู้หญิงเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงผู้หญิงที่เป็นเสาหลักหรือผู้นำของครอบครัว สามารถทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยความเป็นผู้นำจากผู้ชายที่ในบางครั้งก็ทำได้ไม่ดีเท่าผู้หญิงเสียด้วยซ้ำ

 

ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com